ศิลปินจิตรกรรมร่วมสมัยชาวไทย ‘Aof Smith’ (อ๊อฟ สมิทธิ์) กับผลงานสไตล์ป๊อปเซอร์เรียลลิสม์ ที่เป็นการเล่าเรื่องปัญหาต่างๆ ผ่านคาแรคเตอร์สิ่งมีชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเขาอย่าง ‘Furries’ และล่าสุดนี้กับงานนิทรรศการศิลปะของเขาในชื่อชุด Vibration ที่กำลังจัดแสดงอยู่ที่ Think Space Project ใน Los Angeles ที่เขาจะมาเล่าเรื่องราวสั้นๆ เกี่ยวกับงานแสดงในครั้งนี้ให้เราฟังกัน
งานแสดงในชุดนี้ ‘Vibration’ สื่อถึงเรื่อง ?
เสียงเป็นหนึ่งในห้าสัมผัสที่สามารถสร้างอารมณ์ได้มากมายให้แก่ผู้รับฟัง เสียงดนตรีที่บรรเลงมักพาอารมณ์ของผู้คนให้เคลิบเคลิ้มไปกับจังหวะที่ผสมผสานกันของเครื่องดนตรีแต่ละชนิด หากเพียงแค่ได้รับรู้ว่าในอีกมุมหนึ่งที่ไหนสักแห่ง เสียงที่เกิดขึ้นสำหรับใครบางคนอาจเป็นเสียงแห่งความรุนแรง ก่อเกิดเป็นเมโลดี้ของความขัดแย้งที่กึกก้อง และดำเนินเป็นโลกคู่ขนานกับการรับรู้ของผู้คนมากมาย ในผลงานชุด Vibration ผมได้สร้างตัวละครที่เกิดขึ้นภายใต้จิตใจมนุษย์ที่คลุกกรุ่นด้วยภาวะพื้นที่ของสถานการณ์ที่ผิดปรกติ และเผยตัวตนผ่านการแสดงที่ผสมผสานด้วยเสียงแห่งดนตรี เปรียบดั่งการก่อเกิดความรุนแรงที่ผู้คนชินชาจนเป็นเหตุแห่งความขัดแย้งที่ไม่มีวันสิ้นสุด
ผลงานของคุณชุดนี้ได้ไปแสดงในแวดวงศิลปะที่กว้างมากขึ้นอย่างในอเมริกา คุณมีมุมมองหรือรู้สึกยังไงบ้าง ?
ผมเชื่อว่าการทำงานในแต่ละชุดของภาพที่สื่อสารออกไปมักบ่งบอกถึงตัวผู้สร้างได้ดีว่ามีความคิดเห็นอย่างไรต่อโลกใบนี้ ภายใต้ชุดความคิดที่อยากจะพูด ในแง่ของความรู้สึก มันน่าจะได้ทำหน้าที่และยืนยันให้ผู้รับชมได้ทำความเข้าใจกับสถานการณ์ที่มีความเชื่อมโยงกันทั้งโลก ซึ่งในความเป็นอเมริกาก็เช่นกัน มันคือความหลากหลาย ทั้งเชื้อชาติ ศาสนา วิถี การใช้ชีวิตของความแตกต่างที่เกิดขึ้นจริง เราคิดว่าเนื้อหาที่เราพูดในงานจิตรกรรม มันคงได้ตอกย้ำเชิงความรู้สึก หากแต่เมื่อเรายอมรับมันได้ว่า ภาพของความรุนแรงมันเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกสถานการณ์จริงๆ และเมื่อศิลปะมันได้ทำหน้าที่เป็นเครื่องมือหนึ่งที่จะส่งสารทางความคิดของผู้สร้างได้ แม้ว่ามันจะถูกสร้างมาจากที่ไหน แต่หากสิ่งที่พูดออกไปมันได้ทำหน้าที่ ในภาวะเเวดล้อมเหล่านั้นได้อย่างลงตัว มันก็คงได้เชื่อมโยงกันอย่างถูกที่ ถูกเวลา ภายใต้เงื่อนไขของโลกศิลปะเเล้ว
Trick อะไรที่สำคัญต่อทำงานศิลปะของคุณและคนอื่นก็สามารถนำไปใช้ได้ด้วย ?
จริงๆแล้ว เราไม่มีสูตรสำเร็จอะไรเลย เราคิดง่ายๆ สำหรับการทำงานศิลปะ คือมีวินัย ซึ่งเรื่องนี้ค่อนข้างสำคัญ ต่อการทำงาน เนื่องจากมันต้องควบคุมชีวิตตัวเอง สิ่งแวดล้อมรอบตัว รวมไปถึงคุณภาพงาน หากย่อหย่อนในวินัยอาจจะเกิดความเสียหายกับโครงสร้างของโปรเจกต์งานได้ ต่อมาเรื่องของความขยัน ขยันให้พอดี มากได้เเต่ไม่ควรน้อยไปเลย ยิ่งในระยะเริ่มต้น เราว่าการฝึกฝน แสวงหา มันอาจจะต้องเข้มข้นหน่อย คล้ายๆ จอมยุทธในหนังจีนกำลังภายใน ที่ต้องผ่านการเคี่ยวกลำอะไรบางอย่าง เพื่อให้ได้สำเร็จในแต่ละกระบวนท่า ศิลปะก็เช่นกันมันไม่มีฟลุ๊คและคงจะไม่เหมือนโลกอุดมคติ แบบทำไปพักไปถามว่าได้ไหม ก็คงได้แหละ แต่คงได้แบบทำงานอดิเรก ยิ่งในโลกปัจจุบัน ผู้คนคิดว่าจะมีทางลัดมากมายให้ชีวิตสำเร็จ คุณแน่ใจจริงๆ รึเปล่าว่าทางลัดเหล่านั้นมันแน่นอน ถึงแม้ว่าคุณจะไปถึงความสำเร็จของปลายทางในแบบของคุณ ……แต่แน่นอนคุณจะพลาดเรื่องราวระหว่างทาง ที่คุณจะไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย อีกอย่างคือ การหาความรู้ในโลกศิลปะยุคก่อนๆ เข้ามาเติมเต็มความคิด เราเชื่อว่าศิลปะยุคก่อน อบอวลไปด้วยความบริสุทธิ์ ในเเง่ของความรู้สึกยิ่งค่อนข้างชัด เราชอบศิลปะที่พูดถึงการแสดงท่าทีที่ดึงเรื่องภายในของศิลปินออกมา ปัจจุบันสิ่งเหล่านี้อาจจะถูกพูดถึงน้อยลง ซึ่งอาจจะไปให้ความสำคัญกับปัจจัยและบริบทอื่นเสียมากกว่าการเคารพความรู้สึกและตัวตนของศิลปิน สุดท้ายคือพึ่งพาคนอื่นให้น้อย ทำอะไรเองได้ทำเลย เราได้เรียนรู้ขั้นตอนในทุกๆส่วนได้ด้วยตนเอง อาจจะช้าลง แต่ได้การพัฒนาแน่นอน ได้ลองผิดลองถูกบ้าง ใช้ชีวิตในแบบไม่สำเร็จรูปหน่อย มันถึงมีรสชาติ ท้ายสุดคือ บ่นให้น้อย…ทำให้เยอะครับ
///////
‘Vibration’ Art Exhibition By ‘Aof Smith’
4 November – 25 November 2023
Gallery : Thinkspace Projects, Los Angeles
///////
Thank interview : Aof Smith
Cr. Photo : Thinkspace Projects, @aofsmith
