‘ชัยณรงค์ กองกลิ่น’ ศิลปินจิตรกรรมชาวจังหวัดเลย ที่มีผลงานแสดงและรางวัลที่การันตีในฝีมือและความคิดของเขาจากหลายสถาบัน กับบทสัมภาษณ์ในครั้งนี้ที่เราจะมาล้วงลึกถึงมุมมองการทำงานและการใช้ชีวิตในเส้นทางของศิลปะ
แรกเริ่มคุณสนใจศิลปะตั้งแต่ตอนไหนและเพราะอะไร ?
เกิดจากความผูกพันระหว่างผมกับพี่ชาย ในวัยเด็กชอบติดตามพี่ชายไปตลอด ภาพที่จำได้คือพี่ชายชอบวาดการ์ตูน ชอบทำหุ่นละครเล่นกันในกลุ่มเด็กแถวบ้าน ผมมองว่าพี่ชายเก่งมาก อยากเป็นแบบพี่บ้าง เลยกลายเป็นความชอบในการวาดภาพแต่นั้นมา
ช่วงเวลายุคแรกๆ ตอนนั้น หลังจากที่คุณเริ่มสนใจศิลปะและเริ่มเข้าสู่กระบวนการศึกษา เวลานั้นสไตล์และมุมมองในงานศิลปะของคุณเป็นอย่างไร ?
งานผมมีพัฒนาการ 3 ช่วง ในช่วงแรกๆ จะเป็นการล่ารางวัลวัยเด็ก รูปแบบงานจึงออกมาแบบมีกรอบ หัวข้อครอบคลุม งานจึงเกี่ยวกับประเพณีและวัฒนธรรมในท้องถิ่น การเล่าเรื่องชีวิตประจำวัน ตลอดจนวิถีชีวิตที่พบเห็น ช่วงที่สอง เป็นช่วงที่เข้าเรียนในคณะจิตรกรรม ผมมาจากต่างจังหวัด ต้องปรับตัวเยอะกับสังคมเมือง ความกดดันเหล่านี้ถ่ายทอดออกมากับผลงานชุดคนเมือง คนในกรอบ หุ่นกระบอกเลี้ยงเด็ก รวมถึงงานรางวัลโนเกียอาร์ตอวอร์ดที่สะท้อนเทคโนโลยีที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตคน และช่วงที่สามสนใจในฟิกเกอร์เรทีฟ
ที่พอจะจำความได้เกี่ยวกับงานศิลปะของคุณ คือช่วงนั้นงานของคุณจะเป็นฟิกเกอร์มนุษย์ที่ค่อนข้างตัวใหญ่หรือแม้กระทั่งงานคาแรคเตอร์หมู คุณพอจะเล่าให้ได้มั้ยว่างานของคุณพวกนี้ มีแนวคิดและมุมมองอย่างไร ?
ตามที่ถามถึง เป็นช่วงเวลาที่ผมสนใจในฟิกเกอร์เรทีฟของมนุษย์ที่เกิดจากผลพวงจากสิ่งที่มนุษย์กระทำ ต้องการสะท้อนให้เห็นถึงภาวะปัจจุบันที่ผลกระทบจากสิ่งแวดล้อมอันเกิดจากน้ำมือมนุษย์มักจะย้อนกลับมาที่ตัวมนุษย์เสมอ จึงออกมาในลักษณะโครงสร้างใหญ่โตเพื่อให้เห็นถึงผลพวงจากการกระทำ สำหรับงานที่เกี่ยวกับหมู คือภาพสะท้อนมนุษย์ที่ใช้หมูเป็นตัวเล่าเรื่องแทนมนุษย์ สัตว์ที่ใกล้ชิดแต่ถูกเลี้ยงไว้เพียงเพื่อเป็นอาหาร เป็นการเสียดสีสังคมในอีกรูปแบบหนึ่ง
หน้าเด็กทารกก็ค่อนข้างเยอะสำหรับผลงานของคุณ ซึ่งคุณได้มุมมองพวกนี้มาจากอะไร ?
งานเกี่ยวกับเด็กมีพัฒนาการ 3 ช่วง ช่วงแรกผมมองว่าเด็กเหมือนผ้าขาว สิ่งที่ผู้ใหญ่ทำมักส่งผลต่อเด็ก ช่วงที่สองมองถึงผลกระทบของสังคมเมืองที่มีต่อเด็ก เช่น เด็กเล่นเกม ช่วงที่สาม ใช้เด็กเป็นตัวแทนในการเล่าเรื่อง ลดทอนความรุนแรงโดยใช้เด็กเป็นตัวสื่อ
ตามหลักการทำงานของคุณแล้ว การหาแรงบันดาลใจในการทำงานของคุณ คุณสนใจอะไรและมีวิธีอย่างไร ?
ผมเป็นคนชอบสังเกต จึงใช้สิ่งรอบตัวในบริบทต่างๆ มาเป็นตัวเล่าเรื่อง รวมถึงการเล่าเรื่องจากสภาวะของตัวเองด้วย
เทคนิคในการทำงานของคุณส่วนใหญ่คือ ?
เป็นภาพจิตรกรรมสองมิติ ใช้เทคนิคสีนำ้มันบนผ้าใบหรือลินิน และอาจมีประติมากรรมบ้างนิดหน่อย
จริงๆ แล้ว สไตล์งานศิลปะของคุณคือ ?
ถ้าติดตามงานของผมมาตลอด จะเห็นว่าผมมีงานออกมาหลายชุดมากเนื่องจากผมไม่ยึดติดรูปแบบ งานผมเป็นโพสต์โมเดิร์น ไม่มีกรอบ
ช่วยเล่าให้เราฟังถึงกระบวนการในการคิดงานและทำงานของคุณ ?
คิดอะไรได้ก็รีบทำ คิดได้แล้วต้องสเก็ต เพราะถ้ามัวแต่คิดแล้วไม่ทำจะไม่มีทางรู้เลยว่างานจะออกมาโดนใจหรือไม่
จากยุคแรกเริ่มที่คุณมีสไตล์งานเป็นของตัวเอง จวบจนถึงปัจจุบันนี้ มุมมองและคอนเซปต์เปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน ?
ความสนใจเรื่องของมนุษย์ยังคงอยู่ การสะท้อนเรื่องต่างๆ อาจหายไป กลายเป็นความสนุกมากขึ้น
กี่ปีแล้วครับที่คลุกคลีอยู่ในวงการศิลปะ คุณมองเห็นทิศทางที่เปลี่ยนแปลงของวงการเป็นยังไงบ้าง ?
ผมมองว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปมาก ในทุกวันนี้มีคนสนใจในการเรียนศิลปะมากขึ้น ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมส่งเสริมศิลปะมากขึ้นจากเดิม
คุณก็เคยเข้าร่วมประกวดงานศิลปะจากที่ต่างๆ มามากมายและก็ได้รางวัลมาด้วย ซึ่งผมอยากจะถามความคิดเห็นว่า มุมมองที่คุณมีต่องานประกวดศิลปะ เป็นอย่างไร ?
มองว่าการประกวดเป็นเรื่องที่ดี และเป็นการการันตีถึงความสามารถของศิลปิน เป็นการคัดกรองรูปแบบ ความคิดในช่วงเวลาต่างๆ ได้ว่าศิลปินมีความสนใจใดบ้าง ทำให้ผู้ที่สนใจศิลปะได้เรียนรู้ในตัวศิลปินไปด้วย
แล้วตอนนี้ คุณกำลังทำอะไรอยู่บ้างและมีโปรเจคอะไรที่น่าสนใจให้เราคอยติดตามบ้าง ?
ตอนนี้เป็นอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัยศรีปทุมและมหาวิทยาลัยกรุงเทพ สำหรับงานศิลปะผมมีความเคลื่อนไหวโดยตลอด อย่างที่บอกมาแล้วว่าผมเป็นคนที่คิดแล้วลงมือทำเลย ดังนั้นงานผมจึงมีออกมาให้ติดตามกันโดยตลอด
นอกจากงานศิลปะ คุณสนใจอะไรในด้านอื่นบ้าง ?
ตอนนี้ยังไม่มีความสนใจอย่างอื่นนอกจากศิลปะ
ตลอดระยะในการทำงานศิลปะของคุณ สิ่งเหล่านี้ให้อะไรกับคุณ ?
สำหรับผมแล้ว ศิลปะ คือ ‘ความสุข’
xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx
*Follow : ติดตามผลงานของเขาได้ที่*
FB : Chainarong Kongklin / ชัยณรงค์ กองกลิ่น
IG : Chainarong Kongklin
xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx
Thank Interview : Chainarong Kongklin
Credit Foto : Chainarong Kongklin
xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx